รูปไฮด์สมัยเด็กๆ กะคูณพ่อ และ คุณแม่ ไอยาโกะซัง
บทที่ 1 สายรุ้งเริ่มก่อตัว
Hyde เป็นลูกคนเดียวของคุณแม่ ไอยาโกะซัง ซึ่งบังเอิญอยากได้ลูกสาว พอดีเจ้าตัวก็ดันหน้าตาก็จิ้มลิ้มเหมือนผู้หญิง ตอนเด็ก ๆ คุณแม่เลยชอบจับมานุ่งกระโปรง แต่งหญิงไว้ผมยาว แถมยัง หิ้วกระเป๋าสีแดงแปร๋น อีกต่างหาก เป็นแบบนี้จนถึงป.6 แน่ะ คุณพ่อเห็นท่าไม่ดี กลัวว่าไฮด์โตมาแล้วจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เลยจับส่งไปเรียนคาราเต้ซะเลย ที่ไฮด์ออกมาสวย+หล่ออย่างนี้ เพราะว่าพ่อแม่ของไฮด์ต่างก็สวยหล่อ
ย้อนอดีตไปสมัยประถม ไฮด์เป็นเด็กเงียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นซักเท่าไหร่ มักจะโดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งจนร้องไห้กลับบ้านเป็นประจำ ก็เจ้าตัวน่ะคิดว่า ถ้าร้องไห้ แล้วจะได้รับการยกโทษนี่ จนเกือบกลายเป็นเด็กขี้แยไปซะแร้ว .....
พอมาตอนป.3 ไฮด์ก็ย้ายบ้านเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นที่อยู่ปัจจุบันของพ่อ-แม่ ไฮด์เป็นคอฟฟี่ช็อบเล็กๆน่ะนะ ชื่อว่า "Apple" อยู่ในจังหวัดวาคายาม่า ไฮด์ก็เลยต้องย้ายโรงเรียน ทำให้ไฮด์ไม่มีเพื่อนสนิทซักกะที และพ่อแม่ก็ทำงานทั้งคู่ ไฮด์จึงมักใช้เวลาส่วนใหญ่สนุกกับการวาดภาพอยู่คนเดียว และก็เพราะว่าชอบการวาดรูปมาตั้งแต่สมัยอยู่อนุบาลไฮด์ก็เลยมีเรื่องรูปอยู่หัวเสมอ ซึ่ง ไฮด์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า
" ก่อนวาดรูปลงสมุดภาพ ก็จะสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาในหัว แล้วพอคิดออกว่าจะนำเสนอมันออกมายังไง ก็หมดวันพอดี ผมจำได้ว่าไม่เคยออกไปเล่นข้างนอกในวันอาทิตย์เลย " นับว่าเป็นคนเอาจริงเอาจังมากเลยนะ ไม่เพียงแต่วาดรูปธรรมดาเท่านั้น ไฮด์ยังวาดการ์ตูนและรูปที่ใช้เทคนิคอื่นๆด้วย ในหนังสือรุ่นตอนจบชั้นประถม ไฮด์ผู้หลงใหลการวาดภาพก็ได้เขียนบทความเกี่ยวกับการ์ตูนของเขาเลยทีเดียว
และไม่เพียงวาดรูปเท่านั้นนะ hyde ยังสนใจดนตรีด้วยหล่ะ ตอนประมาณ ป.4 ก็กลายเป็นแฟนเพลงของออฟคอร์ส ทั้งยังฟังเพลงที่คุณโอดะร้องด้วย เนื้อเพลงของ L'Arc ที่ ไฮด์เป็นคนเขียนนั้น อาจจะได้รูปแบบมาจากตอนนี้ก็ได้ พอขึ้นป.6 ไฮด์ผู้ที่ไม่ค่อยเป็นจุดเด่นในชั้นเรียนก็เริ่มร่าเริ่งขึ้น ก็เพราะ 3คนพ่อแม่ลูกมักจะขี่จักรยานไปเที่ยวทะเลหรือภูเขา หรือไม่ก็ไปทั้งแคมป์กันน่ะ
ต่อมาก็เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ชั้นม.ต้นไฮด์เข้าชมรมฟุตบอลได้เพียง 3 วันก็ลาออก ในช่วงนั้น ข่าวคราวเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนค่อนข้างหนาหู ด้วยหน้าตาสะอาดสะอ้าน ของไฮด์ ทำให้เขาเคยถูกพวกเด็กเกเรเรียกออกไปต่อย เพราะฉะนั้นนะ สำหรับไฮด์แล้ว โรงเรียนจึงเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบมากๆๆ ถึงแม้จะอยู่ม.ต้นแล้วก็ตาม ไฮด์ก็ยังไปตั้งแคมป์กับเพื่อนๆตอนประถมอยู่เสมอ และคงได้รับอิทธิพลจากภาพยนตร์เรื่อง "แรมโบ้" ไฮด์และเพื่อนๆ จึงแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบบทหาร ออกไปตั้งแคมป์ ที่ภูเขาบ้าง ทะเลบ้าง
และในช่วงที่ไฮด์กำลังหลงใหลการตั้งแคมป์อยู่นั้น เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ประมาณ ม.2 เขาได้รับอุบัติเหตุในขณะขี่จักรยาน ไฮด์ขี่จักรยานลงมาจากภูเขาด้วยความเร็วสูง เมื่อถึงทางโค้งแทนที่จะลดความเร็ว ไฮด์กลับคงความเร็วอยู่เช่นนั้น จึงไปชนเปรี้ยง !!! กับกำแพงบ้านเข้าเต็มเปา ไฮด์หมดสติ เลือดออกก็มาก เรียกว่า โคม่าเลยทีเดียว !! หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากชาวบ้านพาไปส่งโรงพยาบาลแล้วล่ะก็ อาจจะไม่มี hyde ในวันนี้ก็ได้ และบาดแผลในครั้งนั้นก็ยังอยู่ที่คอของไฮด์จนทุกวันนี้ แต่ถึงจะเจ็บขนาดไหน ไฮด์ก็ยังไม่เข็ด ก็ยังคงชอบตั้งแคมป์อยู่เช่นเดิม
ที่บ้านของ ไฮด์ซึ่งเป็นคอฟฟี่ช็อป มักจะเปิดเพลงในร้านอยู่แล้ว ทำให้เขาเคยชินกับเพลงตะวันตกมาตลอด มีอยู่วันนึง เขาได้ยินเพลง Stranger ของ บิลลี่ โจแอลที่เปิดในร้าน แล้วก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที วันรุ่งขึ้น ไฮด์ก็ตรงดิ่ง ไปยังร้านแผ่นเสียง เพื่อซื้อมาเก็บไว้ และจากนั้นเองไฮด์ก็กลายเป็นสาวกเพลงตะวันตก ตอนม.ต้น ก็ฟังเพลงของ Duran Duran สังเกตุแนวเพลงของ L'Arc จะมีกลิ่นอายความเป็นอังกฤษอยู่มาก นอกจากนี้ ไฮด์ยังชอบฟังเพลงแนว Metal และอื่นๆอีกด้วยๆอีกด้วย
มีอยู่ครั้งนึง เท็ตสึกำลังเล่นเครื่องบังคับวิทยุที่ช่วยกันทำกับเพื่อนๆในห้องอยู่ดีๆ เท็ตสึก็ไปที่ร้านแล้วซื้ออุปกรณ์มาต่อเล่นเองคนเดียว เค้าเก่งขนาดที่ว่า เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันต่อโมเดลพลาสติก เลยทีเดียว ทั้ง เคน และ เท็ตสึเองก็มักจะไปซื้ออุปกรณ์ต่อโมเดลพลาสติกด้วยกันเป็นประจำ ในช่วงนั้นเอง ทั้งคู่ได้เข้าเป็นสมาชิกชมรมเบสบอลของสมาคมกีฬาที่เขตไมบาระ เรียกได้ว่าฉายแววทางเบสบอลเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป
เวลาผ่านไปความรักของ เท็ตสึกะโมเดลพลาสติกก็เริ่มสุกงอม (ขนาดนั้นเชียว) เค้าฝันถึงร้านโมเดลพลาสติกของตัวเองอย่างจริงจัง ถึงขนาดที่วางแผนว่าจะเปิดร้านในที่แบบไหน สินค้าต้องเป็นอย่างนู้น การบริการต้องเป็นแบบนี้นะ และในขณะที่สนุกสนานกับการต่อโมลเดลไปได้ซักระยะ ประมาณ ป.5 ก็เริ่มเปลี่ยนแผนอยากเป็นนักแข่งรถแทน ถึงแม้จะแสดงความเป็นผู้ใหญ่ออกมาให้เห็น แต่เด็กกะยังเป็นเด็กวันยังค่ำ เพราะเท็ตสึนั้น คลั่งหุ่นยนต์กันดั้ม อย่างมากมาจนถึงทุกวันนี้
ต่อมาในชั้น ม.ต้นเท็ตสึ ก็เข้าชมรมเบสบอล แต่ทางชมรมมีกฎว่าต้องตัดผมสั้น ซึ่งเป็นกฏที่เค้ารับไม่ได้ ก็เลยลาออกมันทันที จากนั้นเค้าก็แวะไปบ้านรุ่นพี่เป็นประจำ และที่นั่นเองเค้าก็ได้เริ่มฟังดนตรีและลองเล่น จนกระทั่งตัดสินใจตั้งวงกับพวกเคน ซึ่งเท็ตสึก็เริ่มเล่นเบสในตอนนี้เอง จุดเริ่มต้นก็คือคำพูดของเคนที่ว่า"ไปซื้อเบสมาซะ" แต่เท็ตสึซึ่งอยู่แค่ ม.2 นั้น ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเบสเลย เมื่อเคนอธิบายว่า "กีต้าร์น่ะ มี 6 สาย แต่ เบส มี 4 สาย" เค้าก็เลยคิดว่าเล่นเบสคงง่ายกว่าเล่นกีต้าร์ จนไปซื้อเบสมา (ซะงั้น = =) แล้วเค้าก็เข้าๆออกๆบ้านรุ่นพี่ จึงได้ฟังเพลงแนว New Wave และ Metal ส่วนเคนก็ได้รับอิทธิพลจากพี่สาว ฟังเพลงแนว New Music และแล้ว วงที่เคนกะเท็ตสึตั้งขึ้นมาก็เดบิว ในงานวัฒนธรรมของโรงเรียน
ที่โรงเรียนมัธยมนางาฮามะ โตเกียว เท็ตสึก็กำลังหาสมาชิกวงอยู่ ซึ่งเค้าก็กำลังตั้งความหวังที่จะเป็น band sound การหาสมาชิกของเท็ตสึนั้นก็คือหาจากคนในโรงเรียน แต่ก็ยังไม่พบคนฝีมือดีๆซักที จึงได้แต่ไปแจมกับเพื่อน ในงานวัฒนธรรมของโรงเรียนอื่นเท่านั้น แล้วก็ยังติดต่อกะเคนอยู่บางที
อยู่มาวันนึงก็ถึงจุดเปลี่ยนของเท็ตสึ รุ่นพี่พาเขาไปดูการแสดงสด ทำให้เค้าพบวงที่เขาวาดฝันไว้ ยิ่งไปกว่านั้น มือเบสของวงที่เพิ่งลาออกไป เท็ตสึจึงได้ร่วมวง หลังจากนั้นไม่นานก็ตั้งชื่อวงว่า "Bystonwell" และก็ได้เข้าร่วมแข่งขันจนได้รับรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการอีกด้วย ต่อมามือกีต้าร์ได้ลาออกไป ทำให้เคนได้เข้าร่วมวงมาอีกคน
ต่อมา เคนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ก็เลยเล่นให้วงไม่ได้อีก และโคจังก็ตัดสินใจไปหางานทำที่โตเกียว ตัวเท็ตสึเองไม่ได้เรียนต่อ เท็ตสึเองถึงเคนจะออกไป ก็ยังคงเล่นอยู่กับ "Bystonwell" อยู่พักนึง แต่ตอนนั้นยังไม่คิดจะเป็นโปร ระหว่างที่ทำงานพิเศษที่ร้านแผ่นเสียง "ASAHI MUSIC" เพื่อนของเค้าก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้เท็ตสึคิดได้ว่า คงจะต้องเล่นดนตรีจริงจังๆเสียที จึงได้มุ่งหน้าไปยังโอซาก้าเพื่อตั้งวงอย่างจริงจัง โดยที่มีเงินติดกระเป๋า อยู่แค่ 1 หมื่นเยนเท่านั้นเอง
tetsu ที่พักอาศัยอยู่บ้านไกล้เรือนเคียงกะ ken
Ken เกิดที่ฮิโกเน่ เขาเป็นเด็กซนมาตั้งแต่สมัยอนุบาล จนถูกครูดุเป็นประจำ ชอบเล่นอะไรอันตราย ก็อย่างกำลังจะถูกล้มตอนเล่นมวยปล้ำก็ไปต่อยหน้าเพื่อนเข้าซะนี่ เพราะอย่างนี้รึเปล่า ถึงได้เป็นดาวเด่นของห้อง ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการนักเรียนอยู่เสมอ เห็นหน้ากวนๆแบบนี้ เคนถือว่าเป็นเด็กหัวดีเอามากๆด้วย (ดูหน้าตาแล้ว ไม่น่าเชื่อเลย)
เคน และ เท็ตสึ เป็นเพื่อนบ้านกัน และก็มักจะไปซื้ออุปกรณ์ต่อโมเดลพลาสติกด้วยกันประจำ ในช่วงนั้นทั้งคู่ก็ได้เข้าเป็นสมาชิกชมรมเบสบอลของสมาคมกีฬาที่เขตไมบาระ เรียกได้ว่าฉายแววทางเบสบอล เหมือนเด็กผู้ชายทั่วๆไป และแล้ว เคนที่เต็มไปด้วยความสดใส ก็มีแฟนตอนอยู่ป.4 เริ่มต้นด้วยการแลกเปลี่ยนไดอารี่กัน (ไวไฟแต่เด็ก จิงๆ 555+)
ต่อมาในช่วง ม.ต้น เคนก็เข้าชมรมปิงปอง ถึงขั้นคิดค้นเทคนิคการเสิร์ฟลูกของตัวเอง ช่างเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต ไม่ต่างกับตอนประถมเล้ย และพี่สาวของเคนก็เริ่มเล่นกีต้าร์โฟล์ค ทำให้เคนเริ่มใช้ชีวิต อยู่ท่ามกลางเสียงดนตรีทุกๆวัน พอเข้าสู่ช่วงม.ปลาย เคนก็ยังคงสนุกกะชีวิตเช่นที่ผ่านมา
อยู่มาวันหนึ่ง เคนได้รับการติดต่อให้เป็นนักร้องนำ ถึงแม้เคนจะชอบการร้องเพลง แต่หลังจากนั้นมา เขาก็ไม่เคยใฝ่ฝันถึงการเป็นนักร้องนำแม้แต่น้อย ต่อมา เท็ตสึก็ชวน เคน เข้าวง Bystonwell แทนมือกีต้าร์ ที่เพิ่งลาออกไป พอจบชั้นม.ปลาย ก็เข้าเรียนต่อที่คณะสถาปัตย์ มหาวิทยาลัยนาโงย่า ทำให้ไม่สามารถเล่นดนตรีให้วงได้ เคน จึงห่างดนตรีไปพักหนึ่ง แต่.....เท็ตจังก็มาชักชวนให้เข้าวง ตอนนั้น เคน ลังเลใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ตอบตกลงไปในที่สุด ทั้งๆที่เหลืออีกแค่ปีเดียวก็จะเรียนจบมหาลัย การตัดสินใจครั้งนั้นทำให้พ่อ แม่ของเขาไม่คุยกับเคนอีกเลย
โชคชะตาก็นำเขาให้มาเล่นดนตรีอีกครั้ง เพียงเพราะการตัดสินใจในครั้งนั้น เพียงครั้งเดียว.......
บทที่ 2 โรงเรียน Design ที่มีแต่ Musician (ชีวิตสมัย ม.ปลาย)
หลังจากจบชั้น ม.ต้นแล้ว ไฮด์ก็ได้ตัดสินใจที่จะเข้าไปในโลกของการวาดภาพ ก็เข้าไปเรียนทางด้านศิลปะที่โรงเรียน Namba Designer สาขา Graphic Design โดยไม่ลังเล โรงเรียนนี้ตั้งขึ้นเมื่อปี 51 และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี ตอนที่ไฮด์เข้าไปนั้นมี Professional มากมายในสาขา Art Design CG Animate ซึ่งต้องเรียน ม.ปลาย 3 ปี วิชาชีพ 2 ปี
เป็นเพราะบรรยากาศในโรงเรียนที่ดูเป็น Unit หรือป่าว ที่ทำให้นักเรียนแต่ละคนมีลักษณะต่างกันไป จำนวนมากกว่าครึ่งนั้นเป็น Musician เลย ไฮด์ก็เริ่มเรียนกีต้าร็จากอิทธิพลของเพื่อน เล่นพวก Metal จากการจับ Melody ทางหู จนมาถึงตั้งวง Hard core หรือ Slash ขึ้นมาบ้าง ชั่วโมงเรียนก็มีทั้งสเกตช์ภาพ การออกแบบ ความสามารถของ ไฮด์ได้รับการขัดเกลาจากที่นี่ จนไฮด์เองตั้งเป้าไว้ว่า เขาจะต้องเป็นนักเขียนการ์ตูนให้ได้ แต่ถึงจะมีรูปภาพอยู่รอบตัว ไฮด์ก็ยังคงฟังเพลงต่อไป โดยเฉพาะแนว Metal
แต่วันนี้ เขาที่ขยันเรียนเพื่อเป็น Animator ก็พบกับกำแพงใหญ่ " ผมตาบอดสีครับ ตอนที่รู้ตัวคือสมัยประถม แต่ไม่ค่อยสนใจ ในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้กลุ้มใจอะไร ทางด้านวาดภาพก็มีความมั่นใจ แต่ไม่ถนัดการระบายสีก็เลยทำให้ความมั่นใจเสียไป นะครับกลัวการระบายสี และจะทำได้แต่การวาดภาพจากแรเงาเท่านั้น มีคนบอกว่า สีที่ใช้ระบายออกไปไม่ใช่สีที่ตัวเองคิดไว้ ไม่สามารถแยกระหว่าง พวกสีอ่อนหรือ Pastel เลยทำให้กลุ้มใจหนักขึ้นว่าจะทำงานเกี่ยวกับ Animate ต่อไปดีหรือไม่ "
ต่อจากนั้น ไฮด์ก็เริ่มอยากตั้งวงของตัวเอง ตามประสาเด็ก ม.ปลายที่รักดนตรี โดยไฮด์เองเล่นกีต้าร์ และก็หาสมาชิกวงได้จบครบ ขาดแต่นักร้องนำ ไฮด์เลยต้องรับหน้าที่นี้เอง ความจริงแล้วไฮด์ไม่เคยคิดอยากจะเป็นนักร้องเลย บอกว่าน่าเบื่อ เป็นมือกีตาร์มันส์กว่ากันเยอะ และถึงแม้ว่าวงนี้จะแยกย้ายกันไป ทั้งๆที่ไม่เคยแสดงสดเลย
ต่อมาไฮด์ก็เข้าสู่ช่วง Entrance แต่ Ent ไม่ติด ก็เลยกลับมายังวาคายาม่า หางานพิเศษทำและเล่นดนตรีไปเรื่อยๆ และเริ่มทำงานที่ร้านมิสเตอร์ โดนัท แต่ที่ร้านนี้เป็นที่รวมตัวของผู้สูงอายุที่จะมากันเป็นประจำ ซึ่งไฮด์ก็ไม่ได้ถนัดเทคแคร์แขกแบบนั้นจึงมีบทสนทนาว่า "เชิญครับ"รับอะไรดีครับ"หัดจำบ้างซิ" ซํ้ากันทุกวันจน ไฮด์เริ่มทนไม่ไหว จนต้องเลิกไป หลังจากนั้นก็ได้งานใหม่ที่ร้านขายเครื่องดนตรี IWAKI ที่อยู่ในเขตตัวเมืองวาคายาม่า ซึ่งที่นี่มีสตูดิโออยู่ด้วย ที่ตรงนํ้นจะมี Live Space ที่บรรจุคนถึง 60 คนด้วยไฮด์ก็เข้าไปซ้อมบ่อยๆโดยอาศัยส่วนลดพนักงาน
Image ของไฮด์ในตอนนั้นไม่ค่อยโดดเด่น เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่ค่อยพูดใช้ชีวิตอยู่กับกับการเล่น Guitar เป็นหลักแต่ ไฮด์ก็ไม่ได้ตั้งวงขึ้นมาจริงจัง เขาไปช่วยวงอื่นในหน้าที่ต่างๆ และออกแสดงสดบ้างบางครั้ง แต่ก็ทำให้ไฮด์เริ่มค้นพบพลังเสียงของตัวเองบ้างแล้ว ช่วงที่ทำแบบนี้ จุดมุ่งหมายก็ได้เปลี่ยนไป ทำให้ ไฮด์คิดว่า " จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวในโอซาก้าและจะทำ Band อย่างจริงจัง " ไฮด์ จึงมุ่งสู่ถนนแห่งดนตรี นั้นคือโอซาก้า .........
ยังไม่จบนะ เดี้ยวมาทำต่อ ^ ^
บทที่ 3 พบกันที่ โอซาก้า !!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น